“ ไอศกรีมมะม่วงน้ำดองไม้ ”
(ice cream mango)
สวัสดีดีเพื่อนชาว blog ทุกคน อากาศมันร้อนมากช่วงนี้
ยิ่งเดือนเมษายนของประเทศไทยบ้านเราแล้วละก็ไม่ต้องพูดถึงเลยใช่ไหมละ
ร้อนกันแทบจะอยู่ในบ้านกันไม่ได้และยิ่งไปกว่านั้นค่าไฟพุ่งกระฉุดกันแทบหน้าตกใจ
แต่บ้านเราก็มีผลไม้สำหรับคลายความร้อนนะ หน้าร้อนสำหรับประเทศไทยแล้วทำให้คิดถึง “ ข้าวเหนียวมะม่วง ” รสของมะม่วงตัดกับความหวานของข้าวเหนียวมูล
แต่ช้าก่อนวันนี้เราไม่ไม่มาเสนอ ข้าวเหนียวมะม่วงจ๊ะ แต่เราจะมาเสนอสูตรในการทำ “ไอศกรีมมะม่วง” กินให้มันชื่นใจ
ได้อ่านตรงนี้แล้วคิดถึงไอศกรีมยี่ห้อนึ่งใช่ไหม ไหนๆละมาลองทำกันดีกว่า
ไอศกรีมไม่อยากอย่างที่คิดนะขอแค่มีใจอยากทำก็ลงมือทำเลย
วัตถุดิบ
มะม่วงสุก 400 กรัม
วิปปิ้งครีม
400 กรัม
นมข้นหวาน 2 ช้องโต๊ะ
นมจืด 50 กรัม
น้ำตาล
2 ช้อนโต๊ะ
อุปกรณ์
กะมังใช้สำหรับตีวิปครีม
เครื่องปั่นผสมอาหาร
วิธีทำ
1 ) นำมะม่วงสุกที่เราเตรียมเอาไว้มาปั่นรวมกับนมจืดและนมข้นหวานด้วยเครื่องผสมอาหาร
ให้เนื้อมะม่วงสุกเนียนแบบในรูป
2 ) นำวิปปิ้งครีมกับน้ำตาลมาที่เตรียมเอาไว้มาตีให้เป็นเนื้อครีมให้วิปครีมตั้งเป็นยอด
แต่ของเราตีนานไปหน่อยวิปปิ้งครีมเลยเป็นเนื้อครีมแข็งแต่ไม่เป็นไรใช่ได้เหมือนกันค่ะ
มือสมัครเล่นแบบก็แบบนี้ละ 555 !
3 ) ให้นำส่วนผสมที่ 1 คือมะม่วงสุกที่เราปั่นเตรียมเอาไว้แล้วค่อยๆเทผสมส่วนผสมที่
2 คือตัววิปปิ้งครีม
ค่อยเทผสมกันอย่างเบามือจนมะม่วงสุกปั่นเราจะหมดและผสมให้เป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นเทลงตลับพลาสติกที่เตรียมเอาไว้จากนั้นแช่ในช่องฟิตนานถึง
8 ชั่วโมง
เพื่อให้เซทเป็นไอศกรีม
ทริปเล็กๆ ในการทำไอศกรีมมะม่วง
1 ในการตีวิปปิ้งครีมนั้นโถ่ตีวิปปิ้งครีมควรที่จะมีความเย็นและในระหว่างในการตีวิปปิ้งครีมนั้นใต้โถ่ตีนั้นควรที่จะมีกะลังใส่น้ำแข็งลองด้านใต้อีกครั้งเพื่อในระหว่างตีนั้นวิปปิ้งครีมยังมีความเย็นอยู่
2 ระหว่างในการแช่ไอกรีมมะม่วงนั้นควรที่จะนำออกมาข้นทุก
1 ชั่วโมงติดต่อกันประมาณ
3 - 5 ครั้ง จากนั้นถึงแช่ยาวจนไอศกรีมเซ็ทตัวเพื่อกันไม่ให้ไอศกรีมม่วงที่ทำนั้นเป็นเกร็ดน้ำแข็ง
แต่ไอศกรีมที่ได้นั้นจะมีเนื้อเนียน
ผลจากการทดลองทำสูตรนี้แล้วก็ตุ่มๆต่อมๆ
กลัวทำออกมาแล้วกินไม่ได้
แต่ที่ไหนได้กลับอร่อยยิ่งกินกับมะม่วงสุกแล้วละก็ฟินอย่าบอกใครเลยละ สำหรับสูตรนี้เราได้มาจากคุณแหม่มในยูทูปเราเลยลองเอามาทำดูและที่สำคัญคือไอศกรีมมะม่วงไม่หวานมากเพราะได้ความหวานจากมะม่วงสุกเป็นหลักแล้วและเพิ่มน้ำตาลอีกนิดหน่อยกำลังพอดีเลยละลองไปทำกันดูนะจ๊ะ
ไว้เจอกันสูตรหน้าจ้า
เครดิตสูตร :: คุณแหม่ม (kanchana Iijima)